วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หาดพังกา &หาดท้องกรูด &หาดบางเก่า-หาดนาเทียน

หาดพังกา

อยู่ทางตอนใต้ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ เป็นหาดที่เงียบสงบ ภาพที่เห็นโดยส่วนใหญ่บนหาดแห่งนี้คือเรือหางยาวของชาวบ้านที่จอดเรียงรายเป็นจำนวนมาก และกลุ่มชาวประมงที่ดำรงชีวิตอยู่กับการหาปลา บนหาดแห่งนี้ยังสามารถหารีสอร์ทราคาพิเศษพักผ่อนได้อย่างสบาย
หาดท้องกรูด

              อยู่ถัดไปจากหาดพังกา หาดแห่งนี้จัดเป็นหาดที่มีความเงียบสงบอีกแห่งหนึ่ง บนหาดแห่งนี้ยังมีท่าเรือหางยาวสำหรับเดินทางไปเกาะแตน โดยใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ 15 นาที จึงสามารถเดินทางแบบเช้าไปเย้นกลับก็ได้ หาดแห่งนี้ไม่ค่อยเหมาะกับการเล่นน้ำมากนัก
หาดบางเก่า-หาดนาเทียน
              อยู่ถัดจากหาดท้องกรูดไปทางทิศตะวันออก หาดทั้งสองแห่งนี้เหมำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนอย่างเงียบๆ ต้องการความเป็นส่วนตัว ลักษณะของหาดเป็นหาดกว้างและทอดตัวยาว น้ำริมหาดแห่งนี้ค่อนข้างตื้น ริมหาดมีทิวมะพร้าวเป็นแนวร่มรื่นและสวยงาม

หาดหัวถนน
              อยู่ถัดจากหาดบางเก่า-หาดนาเทียน และอยู่ทางทิศใต้ถัดจากหาดละไม ซึ่งเป็นหาดที่สงบอีกหาดหนึ่ง ไม่เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวดีนัก ลักษณะชายหาดมีส่วนที่ทอดยาวออกไป จึงทำให้ระดับน้ำไม่ลึกจนเกินไป หาดแห่งนี้สะดวกแก่การเดินทางไปหาดหน้าทอนมาก เนื่องจากเส้นทางถนนใหญ่ที่มาจากหาดละไมตัดกลางเกาะไปสู่หาดหน้าทอน
สวนผีเสื้อสมุย

              ตั้งอยู่บนเนินเขาติดกับทะเลทางทิศใต้ของเกาะสมุย บริเวณแหลมนาเทียนห่างจากหมู่บ้านชาวประมงบ้านหัวถนน 3 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 20 ไร่ ภูมิประเทศเป็นเนินเขาที่ค่อย ๆ ลาดลงสู่ทะเล มีส่วนที่เป็นสวนพฤกษศาสตร์จัดเป็นสวนหินปลูกไม้ดอกไม้ประดับ รวบรวมพันธุ์ไม้ไทย พืชสมุนไพร และไม้ป่านานาชนิด เพื่อจัดเป็นที่อยู่สำหรับผีเสื้อ

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

น้ำตกหน้าเมือง &หาดตลิ่งงาม

น้ำตกหน้าเมือง
              น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกแขนาดใหญ่ เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ต้องการที่จะมาพักผ่อน และต้องการที่จะเปลี่ยนบรรยากาศมาเล่นน้ำจืดบนเกาะ การเดินทางมาเที่ยวชมน้ำตกแห่งนี้นับว่ามีความสะดวก มีถนนเข้าถึงน้ำตก และอยู่ห่างจากท่าเรือหน้าทอนเพียงแค่ 14 กิโลเมตร และเมื่อเดินทางมาถึงน้ำตกก็จะได้พบกับลานกว้าง มีที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ตลอดจนร้านอาหารและร้านจำหน่ายของที่ระลึกให้บริการ หลังจากนั้นก็จะได้พบกับน้ำตกหน้าเมือง 1 ซึ่งจัดว่าเป็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่นัก มีความสูงประมาณ 15 เมตร สายน้ำจะไหลลงมารวมกันเป็นแอ่งขนาดใหญ่ เหมาะแก่การเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง

              สำหรับคนที่ชอบความสมบุกสมบันในการเดินทาง ก็สามารถเดินเท้าเข้าไปชมน้ำตกหน้าเมือง 2ซึ่งก็จะมีขนาดใหญ่และสวยงามเป็นอย่างยิ่ง กระแสน้ำที่นี่ค่อนข้างไหลแรง และระหว่างทางยังจะชมแคมป์ช้าง ซึ่งสถานที่นี้เป็นสถานที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง จะมีกิจกรรมการนั่งช้างบริการนักท่องเที่ยว เริ่มเปิดบริการตั้งแต่เวลา 09:00 น. – 17:00 น. ทุกวันเพื่อชมความสวยงามของสายน้ำที่ไหลพาดผ่านหน้าผา ชมสวนมะพร้าว จนลืมความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินเท้าไปได้ เมื่อเดินทางมาถึงน้ำตกท่านก็จะได้เห็นถึงความสูงใหญ่ของสายน้ำ และสามารถเดินเลาะด้านข้างเพื่อจะขึ้นไปสู่ชั้นสูงสุดของน้ำตก เพื่อรับชมความสวยงามของน้ำตกที่ทิ้งตัวไหลผ่านชั้นหินลงมา ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดในการบันทึกภาพเพื่อเก็บไว้ชื่นชมในภายหลัง
              เราได้มีโอกาสไปชื่นชมความสวยงามของน้ำตกหินลาด ได้เห็นสาวๆ และเด็กๆ ตัวเล็กๆ ตัวน้อยๆเล่นน้ำกันอย่างมีความสุข คิดแล้วก็ให้อิจฉาคนสมุยจริงๆ ที่ได้อยู่บนเกาะสวรรค์แห่งนี้ เพราะไม่ว่าจะเรื่องกิน เรื่องอยู่ หรือเรื่องเที่ยว ก็สามารถทำได้ในที่เดียวบนเกาะท่าชื่อว่า “สมุย”
              ก่อนโบกมือลงเกาะนี้อย่างเป็นทางการ เรายังพอเก็บภาพความงดงามของหาดหน้าทอน และหาดตลิ่งงาม ที่เขาลือกันว่ายามพระอาทิตย์อัสดงสวยงามที่สุด ไว้ไปเป็นของฝากพี่สุเทพและพี่ๆน้องๆที่ออฟฟิตได้อีกนิดหน่อย เพราะมันคงเป็นสิ่งเดียวที่เราสามารถเอากลับไปได้ นอกเหนือจากความทรงจำดีๆและมิตรภาพของชาวเกาะสมุยที่เราได้สัมผัสมา
              สำหรับใครที่ได้มาเกาะสมุย แล้วอยากมาเจอกับเจ้าสมรเหมือนอยางกับเราละก็ เราไม่แน่ใจนักนะค่ะว่ามันจะยังให้คุณอยู่เจอรึเปล่า เพราะตอนที่เราได้เจอมันนั้น ดูเหมือนว่ามันก็จะมีอายุหลายปีแล้ว แต่ถ้าใครได้เจอจริงๆยังไงเราก็เช็กแฮนด์กับเจ้าสมรด้วยแล้วกันนะค่ะ
              หวังอย่างยิ่งยวดว่า การตะลอนทัวร์ที่สมุยครั้งนี้ คงจะช่วยนำทางให้คุณเที่ยว สมุยกันได้อย่างสนุกเช่นกันนะค่ะ แล้วอย่าลืมติดตามกันอีกครั้งหน้าแล้วกันนะค่ะ
หาดตลิ่งงาม

              เป็นหาดที่อยู่ถัดไปในทางทิศใต้ของท่าเรือเฟอร์รี่ เป็นหาดที่ขึ้นชื่อในการชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะ เนื่องจากด้านหน้าของหาดเป็นที่ตั้งของเกาะสี่เกาะห้า ในเวลาที่ดวงอาทิตย์ตกจะสามารถมองเห็นภาพของดวงอาทิตย์ตกลงระหว่างกลางเกาะทั้งสอง และจมหายไปในทะเลเป็นภาพที่สวยงามมาก จึงทำให้ในช่วงเย็นหาดนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้ในช่วงกลางวันยังสามารถเช่าเหมาเรือเพื่อเดินทางไปยังเกาะสี่เกาะห้า ดำน้ำชมปะการัง หรือจะเลือกที่จะพักผ่อนด้วยการตกปลาก็ยังได้

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หาดแม่น้ำ &น้ำตกหินลาด

หาดแม่น้ำ
              เป็นหาดที่อยู่ระหว่างหาดบ่อผุด และหาดบางโพ มีแนวชายหาดที่ยาวแต่ไม่กว้างมากนัก นับว่าเป็นหาดที่มีความสงบเงียบเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการลงเล่นน้ำในบางช่วงต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากระดับน้ำมีความลึกและมีคลื่นสูง
        
        นอกจากนี้ยังได้ศึกษาถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนที่เก่าแก่นับร้อยปี และยังมีเรือหางยาวให้บริการเดินทางไปยังเกาะพะงัน (ไปขึ้นฝั่งที่หาดริ้นบนเกาะพะงัน) ในช่วงเวลาเที่ยงของแต่ละวันอีกด้วย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที ส่วนเรื่องที่พักและร้านค้าก็มีอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะร้านดำน้ำและบริการอุปกรณ์กีทางน้ำจะมีอยู่หลายแห่ง
       ลุงหวันได้พาไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมง และชาวบ้านบนหาดแม่น้ำ ตกเย็นเราก็แวะไปกินข้าวกันที่บางปอ เพราะที่นี่มีร้านอาหารขึ้นชื่ออยู่ร้านหนึ่ง ชื่อร้าน “บางปอซีฟู้ด (ตาโข) ซึ่งเป็นร้านอาหารพื้นบ้านดั้งเดิมของชาวสมุยที่ว่ากันว่า ถ้าหากใครมาสมุยแล้วไม่ได้ลิ้มลองอาหารร้านนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง บรรยากาศก็เป็นแบบบ้านๆ บริการกันง่ายๆ และที่สำคัญราคาก็ไม่แพงอีกด้วย พออิ่มท้องกันเรียบร้อยเราจึงล่องเรือกลับกัน ระหว่างนั้นแสงไฟจากบ้านเรือนริมหาดก็เริ่มจะส่องแสงระยิบระยับ ราวกับแสงดาวจากท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างไรอย่างนั้น
             เราพักค้างคืนที่บ้านของลุงหวันอีกหนึ่งคืน ก่อนจะตื่นแต่เช้าด้วยความเกรงใจ และหลังจากกราบลาครอบครัวลุงหวันเป็นที่เรียบร้อย เราก็ไม่ลืมที่จะมอบของฝากจากพี่สุเทพให้เจ้าสมรเพื่อเป็นการแดภารกิจ แม้เราจะเจ็บใจมันอยู่นิดๆ ที่ทำให้เราต้องตะลอนเกือบรอบเกาะแต่ก็ถือว่าเป็นความลำบากบนความสนุก ที่จะอยู่ในความทรงจำของเราไปตลอดกาลเช่นกัน
              จากบ่อผุด..... เราได้ขับรถริมหาดเพื่อมั่งสู่หน้าทอน เพราะที่นั่นจะเป็นสถานที่สุดท้ายที่เรายังสามารถเที่ยวได้ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน
              หน้าทอนเป็นเสมือนหน้าบ้านของเกาะสมุย ก็เพราะมีท่าเทียบเรือรับ-ส่งนักท่องเที่ยว อันเป็นจุดสิ้นสุดการเดินทางทั้งภายในเกาะ และการเดินทางต่อไปยังเกาะต่างๆ ใกล้เคียงในหลายๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นเกาะพะงัน วนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เกาะเต่า และเกาะนางยวน
              ท่าเทียบเรือหน้าทอนจะคึกคักพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูของการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าและอาหารทะเลที่อยู่ไม่ไกลนัก หน้าทอนจึงเป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งทั้งหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจต่างๆ ตลอดจนบริษัท ธนาคาร ร้านค้า และตลาด ชายหาดที่นี่อาจไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ แต่ในยามเย็นจะเป็นสถานที่สำหรับชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง และในยามค่ำคืนยังมีหน้าที่เหมือนประภาคาร คอยให้สัญญาณแก่ชาวประมงที่ออกทะเล
              เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาขึ้นรถ เราจึงคิดว่าจะใช้เวลาที่เหลือไปเที่ยวชมน้ำตกที่อยู่บริเวณใกล้ๆ เพราะที่เกาะสมุยแห่งนี้นอกจากจะมีทัศนียภาพของท้องทะเลแล้ว ก็ยังมีความสวยงามของน้ำตกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกหินลาด น้ำตกลาดวานร และน้ำตกหน้าเมือง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือหน้สทอน3 กิโลเมตร , 6 กิโลเมตร และ 14 กิโลเมตร ไปตามลำดับ
น้ำตกหินลาด

        น้ำตกแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่ถูกแจกจ่าย ให้ประชาชนในตลาดอ่างทองได้ใช้อุปโภค บริโภค ซึ่งอยู่ในความดูแลของการประปาส่วนภูมิภาค น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากท่าเรือหน้าทอนประมาณ 3กิโลเมตร การเดินทางสะดวกมีถนนเข้าถึงตัวน้ำตก เหมาะแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการพาเด็กๆ มาเล่นน้ำ เพราะว่าระดับน้ำไม่ลึก กระแสน้ำไม่ไหลแรงมาก บวกกับความร่มรื่นของป่า จึงเหมาะแก่การนั่งพักผ่อน

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หาดบ่อผุด & ศูนย์ลิงสมุย

เช้าวันใหม่มาถึง เราก็ออกจากที่พักแต่เช้าตรู่เพื่อไปหาของกินที่ตลาดบ่อผุด เพราะเด็กที่โรงแรมเขาแนะนำมาว่า ตอนเช้าๆ ที่ตลาดบ่อผุดจะมีของกินขายเยอะมาก ลักษณะเป็นตลาดบ้านๆ ที่ชาวบ้านจะเอาของออกมาขาย เราเลยยอมตื่นเช้าหน่อยเพื่อว่าจะได้ภาพสวยๆ และอะไรอร่อยๆ รองท้องก่อนไปหา “สมร” ต่อ
หาดบ่อผุด

              ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของเกาะสมุย อยู่ถัดจากหาดแม่น้ำ เป็นหาดที่มีความโค้งตามแนวของอ่าวบ่อผุด และยังมีร้านอาหารทะเลที่อร่อยหลายร้านให้ลองเลือกชิม นอกจากชายหาดที่ทอดตัวโค้งตามแนวอ่าวด้านเหนือเกาะ ความเงียบสงบ และธรรมชาติที่งดงามแล้ว ที่หาดแห่งนี้ยังมีภาพชาวประมงตั้งเดิมให้เห็นอีกด้วย น้ำทะเลที่คอนข้างสงบ เหมาะสำหรับการเล่นกีฬาทางทะเล แต่ไม่เหมาะที่จะเล่นน้ำ เพราะว่าอยู่ใกล้หมู่บ้านชาวประมงและท่าเรือบริเวณสองข้างทางของถนนสายเล็กๆ เลียบหาดบ่อผุด ยังคงกลิ่นอายความเป็นชุมชนจีนอยู่ไม่น้อย เพราะบรรดาร้านค้า บริษัทนำเที่ยว และร้านอาหารที่ตั้งเรียงรายอยู่นั้น ได้ดัดแปลงมาจากโครงสร้างบ้านเรือนดั้งเดิมของชาวจีนทั้งสิ้น จึงทำให้หาดบ่อผุดยามค่ำคืนมีเสน่ห์และโรแมนติกมาก
ศูนย์ลิงสมุย

              ขึ้นชื่อว่าสมุย หลายคนคงจะคิดถึงลิงเก็บมะพร้าวเป็นอันดับแรก แต่กว่าจะสอนให้ลิงเป็นต้นมะพร้าวได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงขนาดต้องมีศูนย์ฝึกลิงเพื่อเก็บมะพร้าวโดยเฉพาะ จนทำให้เกิดจากศูนย์ลิงสมุยขึ้น ที่นอกจากชาวบ้านจะนำลิงมาฝึกเก็บมะพร้าวแล้ว ยังมีการโชว์ความสามารถของลิงเพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง ซึ่งลิงที่ศูนย์ฝึกนี้ส่วนใหญ่จะฝึกตั้งแต่เล็กๆ เพื่อให้มีความชำนาญในการทำงาน เช่น การขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อเก็บมะพร้าว และการแสดงโชว์ต่างๆ ที่แสดงถึงความคล่องแคล่วว่องไวและความชำนาญของพวกมัน
              ศูนย์ลิงสมุย จะตั้งอยู่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเขาพระ ที่นี่จะมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยและการแสดงการฝึกลิง
              เปิดแสดงทุกวัน วันละ  3  รอบ
              คือ  10:30  น. 14:00 น.  และ  16:00  น.
              อัตราค่าเข้าชม ชาวบ้านผู้ใหญ่  80  บาท เด็ก  50  บาท
              ชาวต่างประเทศ  150  บาท
              รายละเอียดติดต่อ  โทร. 0-7724-5140
              เจ้าสมรเป็นลิงเพศเมียที่ลุงหวันเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ เพื่อจะให้ช่วยเก็บมะพร้าว และด้วยความฉลาดแสนรู้ของมันจึงทำให้คนที่ได้พบเห็นต่างพากันหลงรักสมรแทบทุกคน ไม่ว่าลุงหวันจะไปไหนเจ้าสมรมันจะคอยติดตามไปด้วยเสมอ นั่นจึงเป็นเหตุให้คนสมุยเกือบทั้งเกาะรู้จักมันเป็นอย่างดี
              แล้ววันนี้เราก็ได้มีโอกาสดูเจ้าสมรแสดงละครด้วย เสียงปรบมือและเงินรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ดูจะทำให้มันภูมิใจมาก งานนี้ต้องขอชมครูฝึกค่ะว่าลูกศิษย์ได้เก่งจริงๆ หลังจากที่ดูสมรโชว์เสร็จ ลุงหวันก็ชวนไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านของแก แกลงทุนโชว์ฝีมือ “แกงเหมงมะพร้าว” หรือแกงกะลามะพร้าวอ่อนกับปลาย่างให้เรากิน อร่อยอย่าบอกใครเชียว พอกินกันเสร็จสรรพ แกก็พาเราไปเดินย่อยในสวนมะพร้าว และให้สมรโชว์ฝีมือเก็บมะพร้าวอ่อนสดๆ ให้เราดูเป็นขวัญตา ทำให้เราอดนึกถึงพี่สุเทพไม่ได้ โดยเฉพาะท่าตอนที่แกตกลงมาจากต้นมะพร้าว นึกแล้วยังฮาไม่หาย
              ตกบ่ายลุงหวันมีธุระต้องไปหาเพื่อนแถวหาดแม่น้ำ แกจึงชวนเราให้นั่งเรือไปด้วย งานนี้เจ้าสมรไม่ได้ไปค่ะ เพราะมันกลัวน้ำทะเลมาก แต่สำหรับเราช่วงเวลาที่ได้นั่งเรือรับลมไปแบบชิลล์ๆ นั้นดีที่สุดๆโดยเฉพาะการได้เห็นภาพวิถีชีวิตของชาวประมงบริเวณหาดแม่น้ำ เป็นภาพที่มีความเป็นธรรมชาติซึ่งนักท่องเที่ยวน้อยคนนักจะมีโอกาสได้มาสัมผัส

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หาดละไม &หินตา หินยาย &หาดเฉวง &หาดเชิงมน

สมุยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายที่ รับรองว่าแต่ละที่นั้นสวยและมีจุดเด่นไม่แพ้กันค่ะ

หาดละไม

              หาดแห่งนี้เป็นหาดที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยของโค้งอ่าว และทิวมะพร้าวที่ปลุกอยู่เป็นแนว ซึ่งนอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ศูนย์วัฒนธรรมวัดละไม และหินตาหินยาย ที่เกิดจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
ศูนย์วัฒนธรรมวัดละไม

              เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุเกือบสองร้อยปี ที่เรียกว่าศูนย์วัฒนธรรมก็เนื่องมาจากวัดแห่งนี้เป็นสถานที่เก็บรวบรวมของใช้เก่าแก่ ซึ่งล้วนเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น ตะเกียงโบราณ เตารีดใช้ถ่าน กรงนก จอบ เสียม เครื่องดนตรี รองเท้าหนังควาย และผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว เมื่อเดินเที่ยวชมของใช้เหล่านี้จนหมดแล้ว เราก็จะสามารถเรีย��รู้ถึงการดำรงชีวิตของชาวบ้านในอดีตบนเกาะสมุยแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
หินตา หินยาย

              ทางด้านทิศใต้ของหาดละไม ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจอีกอย่าง นั่นก็คือ “หินตา หินยาย” ซึ่งเป็นหินที่มีรูปร่างแปลกตา และยังมีตำนานเล่ากันว่าเกิดจากคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง ชื่อตาเครงกับยายเรียม ซึ่งเป็นชาวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่ล่องเรือมาก็เพื่อที่จะไปขอลูกสาวของตาม่องล่ายที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้กับลูกชาย แต่เมื่อเรือแล่นมาถึงหาดละไมได้เกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม ทั้งตาและยายเสียชีวิต คลื่นก็ซัดร่างของตนทั้งสองมาเกยที่หาด แต่ด้วยแรงอธิษฐานของทั้งคู่ที่มีความตั้งใจจริง จึงได้บันดาลให้ทั้งสองกลายเป็นหินดังกล่าว หินทั้งสองจึงมีรูปร่างแปลกตา อย่างไรก็ตามเป็นหน้าที่ของผู้มาเยือนที่ต้องลองไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง
              เราไม่ขอพูดถึงแล้วกันนะค่ะว่า หินตา หินยาย มีรูปร่างเหมือนอะไร เอาเป็นว่าถ้าคุณได้มาเห็นด้วยตัวเองเมื่อไร คุณก็จะรู้ว่าก้อนไหน หินตา ก้อนไหน หินยาย
              หลังจากชักภาพหินและบรรยากาศสวยๆ ของหาดละไมเป็นที่เรียบร้อย เราก็แวะไปเดินดูร้านรวงที่ขายของอยู่บริเวณใกล้ๆ เพราะที่นี่มีร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกเยอะมาก แต่ที่เด็ดสุดก็เห็นจะเป็นน้ำมะพร้าวปั่นที่เขาใช้น้ำมะพร้าวสดๆ มาทำให้ดื่มกันแก้วต่อแก้ว และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ร้านขายน้ำมะพร้าวปั่นที่เราไปกินมาเนี่ย เขารู้จักกับ “คุณสมร” ด้วย เพราะว่าทุกๆ เช้าสมรจะต้องเอามะพร้าวมาส่งให้ที่นี่ ก่อนจะกลับไปทำงานต่อที่บ่อผุด เรารู้สึกเซ็งขึ้นมาทันที เพราะกว่าจะไปถึงผุดมันก็คงจะเย็น ว่าแล้วเลยตัดสินใจโทรหาพี่สุเทพ เพื่อถามแกให้รู้เรื่องว่าจริงๆ แล้ว “สมร” เป็นใครอยู่ที่ไหน แล้วเมื่อไรเราถึงจะได้เจอสักที แต่ที่พี่สุเทพก็ไม่ยอมรับสายไม่ว่าเราจะโทรไปสักกี่ครั้ง ด้วยความรำคาญเล็กน้อเราเลยหยุดปฏิบัติการตามล่าหาสมรในวันแรก ไว้ที่หาดละไมก่อน และพักผ่อนเอาแรงที่หาดเฉวง
หาดเฉวง

              หาดเฉวงตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ ความยาวของหาดโดยประมาณ 6 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 4 ช่วง คือ
              หาดเฉวงเหนือ
              หาดเฉวงกลาง
              หาดเฉวงใต้
              หาดเฉวงน้อย
              หาดแห่งนี้ถือเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและหลงใหลสีสันยามค่ำคืน เพราะมีชายหาดที่ขาวสะอาด น้ำใส และไม่ลึก จึงเหมาะแก่การเล่นน้ำ นอนอาบแดด และทำกิจกรรมอื่นๆ อาทิ พายเรือคายัก เล่นเรือใบ ดำน้ำชมปะการัง น้ำตื้นตลอดชายหาดเฉวงเหนือและกลาง ฯลฯ และเวลาที่น้ำลดลงก็จะสามารถที่จะเดินไปถึงเกาะมัดหลังที่อยู่ใกล้ๆ ได้ เพราะที่พื้นทรายจะเป็นลานกว้างมีขนาดที่ใหญ่กว่าสนามฟุตบอลหลายเท่าตัว ยิ่งในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง แสงจากดวงจันทร์จะตกกระทบลงบนพื้นทรายเป็นประกายแวววาว สร้างความสวยงาม และความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
              นอกจากนี้แล้วยังมีรีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านค้าหลากหลาย ตลอดจนศูนย์กลางกิจกรรมต่างๆ มากมายที่ถือว่าเป็นสีสันยามราตรีบนเกาะสมุยที่ตั้งอยู่ตลอดแนวหาด
              หลังจากพักเอนหลังบนเตียงผ้าใบและทักทายสาวๆ ที่หาดเฉวงจนหายเหนื่อย เราก็ขึ้นไปชมวิวรอบเกาะที่จุดชมวิวลาดเกาะตรงบริเวณเชิงเขา เมื่อมองไปจะเห็นน้ำทะเลสีฟ้าคราม ตัดกับหาดทรายสีขาว เห็นแล้วทำให้นึกถึงคนรักเก่าสมัยเรียนอนุบาลจริงๆ
              เรื่อยเปื่อยนะค่ะ เราตั้งใจว่าคืนนี้จะหากินข้าวแถวๆ เฉวง แล้วค่อยไปเข้าที่พักที่เชิงมน เพราะแถวนั้นมันสงบเงียบกว่าตื่นเช้ามาก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพอดี
หาดเชิงมน

              หาดเชิงมนอยู่ที่ปลายแหลมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ มีชายหาดโค้งยาว ทรายเป็นสีน้ำตาล ลาดเอียงเล็กน้อย เล่นน้ำได้ หรือจะดำน้ำดูแนวปะการังน้ำตื้นก็ได้ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว มีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบกว่าหาดอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย
              นอกจากนี้หาดเชิงมนยังอยู่ใกล้กับเกาะฟาน ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ เวลาน้ำลงสามารถเดินไปเที่ยวที่เกาะได้ บริเวณหาดเชิงมนมีที่พักอยู่หลายแห่ง หลายระดับ มีร้านอาหารและร้านค้าอยู่บ้างริมถนน นักท่องเที่ยวจึงสามารถหาที่พักในราคาที่ไม่สูงจนเกินไปได้จากหาดแห่งนี้

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คำขวัญประจำเกาะสมุย

คำขวัญประจำเกาะสมุย

“ปะการังงาม น้ำทะเลใส หาดทรายขาว มะพร้าวเยอะ”
ออกตามสมร ตะลอนรอบเกาะ
              พอถึงสมุยก็ว่างพอดี เราจึงไม่รอรีที่จะเปิดจดหมายว่า “อยากเจอสมรต้องไปขอพรที่หาดพระใหญ่” เราถึงกับอึ้งเมื่อเจอมุกนี้ของพี่สุเทพ ถึงเราจะรู้นิสัยพี่แกว่าเป็นคนขี้เล่น แต่ก็ไม่คาดคิดว่าครั้งนี้แกจะเล่นเราซะแล้ว เอ้าไหนๆก็ได้มาเหยียบสมุยแล้ว ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนออกเดินทางก็ดีเหมือนกัน ว่าแล้วเราก็เลยรีบบึ่งไปตามหาสมรที่หาดพระใหญ่เป็นที่แรก
หาดพระใหญ่
              หาดพระใหญ่ หรือหาดบางรักษ์ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเกาะสมุย โดยมีถนนเชื่อมต่อไปยังเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่มีชื่อว่า เกาะฟาน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธโคดม หรือพระใหญ่ พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดหน้าตักกว้าง 5 วา 9 นิ้ว ประดับด้วยกระเบื้องสีเหลืองทองทั้งองค์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 เป็นที่สักการะของพุทธสาสนิกชน และนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ได้เดินทางมาสักการะ
              บริเวณประดิษฐานด้านบน สามารถมองเห็นเกาะพะงันได้อย่างชัดเจน รวมถึงทัศนียภาพที่สวยงามของหาดบางรักษ์ และหาดบ่อผุด และสำหรับผู้ที่นั่งเครื่องบินมายังเกาะสมุย ก็จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของพระใหญ่ที่ตั้งตระหง่านนี้ได้
              นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งสำนักวิปัสสนากรรม สำหรับให้ผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรมพักอาศัยได้ และรอบๆ บริเวณยังเป็นศาสนสถานซึ่งมีพระพุทธรูปปางต่างๆ และพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิม รวมทั้งแผงให้เช่าบูชา พระเครื่อง พระบูชาต่างๆ ทางเดินขึ้นไปเป็นบันได 60 ขั้น ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสมุยให้ความเคารพสักการะ โดยเชื่อว่าเมื่อครั้งที่เกิดสึนามิ ด้วยบารมีของพระใหญ่องค์นี้ ยังได้ช่วยปกป้องเกาะสมุยเอาไว้ไม่ให้ถูกทำลาย ทำให้ทุกวันนี้ไม่ว่าใครที่ได้มาเกาะสมุย ก็จะต้องหาโอกาสที่จะมาสักการะพระใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเสมอ

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รู้จักสมุย ก่อนเจอสมร

รู้จักสมุย ก่อนเจอสมร

              เกาะสมุย ตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวไทย เป็นอำเภอหนึ่งอยู่ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถือเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ต และเกาะช้าง อยู่ห่างจากฝั่งสุราษฎร์ธานีไปทางทิศตะวันออกประมาณ 84 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 247 ตารางกิโลเมตร กว้าง 21 กิโลเมตร ยาว 25 กิโลเมตร พื้นที่ 1 ใน 3 เป็นที่ราบล้อมส่วนที่เป็นภูเขาตรงกลางเกาะ ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบมรสุมเขตร้อน มี 3 ฤดู
              ฤดูฝน  เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม
              ฤดูหนาว  เริ่มเดือนพฤศจิกายน-มกราคม เป็นช่วงที่มีลมมรสุม
              ฤดูร้อน  เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน คลื่นลมสงบ
              เกาะสมุยถูกค้นพบจากแผนที่อายุประมาณ 500 ปี ของราชวงศ์หมิงในประเทศจีน การประมงและการทำสวนมะพร้าว ถือว่าเป็นรายได้หลักบนเกาะสมุย
              คำว่า “สมุย” เป็นคำที่มาจากภาษาใดก็ยังไม่มีใครทราบ แต่มีข้อสันนิษฐานต่างๆ นานาที่แตกต่างกันไปดังนี้
1. บ้างก็ว่ามาจากภาษาจีนไหหลำ “เช่าบ่วย” แปลว่า “ด่านแรก” หรือ “ประตูแรก” ซึ่งชาวจีนที่มาติดต่อค้ขายกับประเทศไทยในสมัยก่อน แล้วมาแวะพักจอดเรือ ใช้เรียกเกาะสมุย แล้วต่อมาการออกเสียงจึงเพี้ยนมาเป็น “สมุย”
2. มาจากคำว่า “สมอย” ในภาษาทมิฬ ซึ่งแปลว่า คลื่นลม
3. มาจากชื่อต้นไม้ที่มีอยู่ทั่วไปในภาคใต้ คือ “ต้นหมุย”
4. “สมุย” เป็นคำมลายู ซึ่งพวกแขกมลายูที่ติดต่อค้าขายกับประเทศไทยใช้เรียกอาณาเขตบริเวณนี้
เกาะสมุยเป็นเกาะที่เราสามารถพบเห็นต้นมะพร้าวได้มากมาย และมีมานานก่อนที่จะมีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเสียอีก ซึ่งในอดีตสมุยถือเป็นเกาะที่มีมะพร้าวมากที่สุดในประเทศไทย และสามารถผลิตมะพร้าว ผลน้ำมันมะพร้าว ให้คนไทยได้ใช้ทั่วทั้งประเทศมายาวนานกว่า 100 ปี จนนับได้ว่ามะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมากของเกาะสมุย และยังเป็นสัญลักษณ์คู่เกาะสมุยมาตลอด และรายได้จากมะพร้าวนี้ทำให้ชาวสวนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีเงินส่งลูกหลานไปเรียนหนังสือที่บางกอก และได้ทำงานรับราชการอยู่มากมาย
บนเกาะสมุยนั้นมีถนนสำหรับใช้ในการสัญจรไปมารอบเกาะ (ถนนสายทวีราษฎร์ภักดี) เป็นระยะทางทั้งสิ้น 50 กม. แต่กว่าที่เกาะสมุยจะมีหนทางที่มีความสะดวกสบายดังเช่นในปัจจุบันนี้ ท่านผู้นำและประชาชนบนเกาะก็ต้องพบเจออุปสรรคระหว่างการก่อสร้างมาแล้วมากมาแล้วมากมาย
หากย้อนไปเมื่อสมัยก่อนปี 2510 การคมนาคมบนเกาะสมุยถือว่ายากลำบากมาก จนเมื่อนายอำเภอดิลก  สุทธิกลม ได้ริเริ่มการปรับปรุงถนนหนทางบนเกาะสมุยให้ดีขึ้นแล้ว แต่ถึงกระนั้นการสร้างทางรอบเกาะสมุยก็ยังมีอุปสรรคอยู่หลายประการ โดยเฉพาะเรื่องสภาพดินฟ้าอากาศ ในภาคใต้จะมีฝนตกอยู่เสมอเกือบตลอดทั้งปี
นอกจากนั้นยังมีแหล่งลูกรังจำนวนจำกัด ต้องขนลูกรังในระยะทางไกล ประกอบกับเส้นทางที่ตัดผ่านเขาเหมาแหงน เลียบชายฝั่งทะเล เป็นบริเวณที่ยาวแก่การทำถนน เพราะต้องใช้ดินระเบิด เพื่อทำการระเบิดหินก้อนใหญ่ๆ หลายลูกติดกันในระยะทางยาวเกือบ 3 กม. แต่ถึงแม้การก่อสร้างถนนรอบเกาะสมุยของหน่วยทหารช่างก่อสร้างที่ 4 จะประสบกับอุปสรรคหลากหลายประการ แต่ก็ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวเกาะสมุยเป็นอย่างดีในทุกๆ ด้านตลอดมา จึงทำให้การปฏิบัติงานสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ลุล่วงไปได้ และทำให้ชาวสมุยได้มีถนนไว้ใช้จวบจนทุกวันนี้
ปัจจุบันเกาะสมุยถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยความงามของหาดทรายขาวที่ทอดยาวขนานไปกับทะเล ต้นมะพร้าวริมชายหาด และน้ำทะเลใส ซึ่งล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยไปสมุยมาแล้วต้องหวนกลับไปอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า นักท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเกาะสมุยก็ล้วนต้องการมาพักผ่อนที่ริมหาด ไม่ว่าจะเป็นการเล่นน้ำ หรือการดำน้ำชมปะการัง
ซึ่งแต่ละหาดบนเกาะก็จะมีบรรยากาศของการท่องเที่ยวที่แตกต่างกันไป เช่น หาดเฉวงมีทรายขาวสะอาด น้ำทะเลสวยเหมาะแก่การเล่นน้ำ หาดละไมมีอ่าวโค้งสวยงาม หาดตลิ่งงามก็เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะ หรือเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยที่อยู่ใกล้ริมหาดรอบๆ อีกมากกว่า 60 เกาะ ก็มีทัศนียภาพที่สวยงามไม่แพ้กัน ซึ่งบางเกาะในยามที่น้ำลงก็สามารถเดินเท้าไปได้ด้วย
นอกจากนี้เกาะสมุยยังพร้อมไปด้วยที่พัก ร้านอาหาร บริการนำเที่ยวสถานบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จนนักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวที่สมุยรู้สึกถึงความคุ้มเกินค่าการเดินทาง และพากันขนานนามให้กับเกาะสมุยว่าเป็น “สวรรค์กลางอ่าวไทย”

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การเดินทางเข้าสู่เกาะสมุย

แต่นแต๊น หลังจากที่เดินทางมาแสนเหน็ดเหนื่อย ก็(เกือบ)มาถึงสมุยแล้ว ต่อไปเราก็จะเดินทางต่อเพื่อเข้าไปยังตัวเกาะสมุย ซึ่งการเดินเข้าเกาะมีทางเดียวเท่านั้นค่ะคือ ทางเรือ (ยกเว้นแต่จะมีเครื่องบินส่วนตัว :D)
การเดินทางเข้าสู่เกาะสมุย



มีให้เลือก 2 เส้นทางค่ะ ได้แก่
1.  การเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่
-     ซีทรานเฟอร์รี่ (ลงเรือที่ท่าเรือดอนสัก สามารถนำรถยนต์ข้ามได้)    โทร. 0-7742-6000-1, 0-7723-8130, 0-7725-1555
-     ราชาเฟอร์รี่ (ลงเรือที่ท่าเรือดอนสัก สามารถนำรถยนต์ข้ามได้)   โทร. 0-7747-1151-3, 0-7741-5230-3
-     ส่งเสริมรุ่งเรือง (ลงเรือที่ท่าเรือท่าทอง เป็นเรือโดยสารไม่สามารถนำรถยนต์ข้ามได้)                                                                                            โทร. 0-7720-5418, 0-7728-9894
2.   เรือนอน (เรือธรรมดา)
จากท่าเรือบ้านดอน อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ขาไปออกจากสุราษฎร์ธานี เวลา23:00 น. ถึงเกาะสมุยเวลาประมาณ 05:00น. ขากลับออกจากเกาะสมุยเวลา 21:00 น. ถึงสุราษฎร์ธานีเวลาประมาณ 04:00 น. อันนี้ต้องเช็คเวลาให้ดีนะค่ะ
*นอกจากนี้แล้วสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่บนเกาะพะงัน เกาะเต่า ยังสามารถเดินทางมาเที่ยวเกาะสมุยได้ มีเรือโดยสารระหว่างเกาะสมุย-พะงัน-เกาะเต่า ดังนี้
-   ซีทรานเฟอร์รี่ ให้บริการเส้นทางเดินเรือดอนสัก-เกาะสมุย-เกาะพงัน และเกาะพะงัน-เกาะสมุย-ดอนสัก โทร. 0-7742-6000-1, 0-7723-8130, 0-7725-1555
-    ราชาเฟอร์รี่ ให้บริการเส้นทางเดินเรือ ดอนสัก-เกาะสมุย , และเกาะสมุย-ดอนสัก และดอนสัก-เกาะพะงัน , เกาะพะงัน-ดอนสัก โทร. 0-7747-1151-3, 0-7741-5230-3
-    ส่งเสริมรุ่งเรือง ให้บริการเส้นทางการเดินเรือ เกาะสมุย-เกาะพะงัน ,  เกาะพะงัน-เกาะสมุย ,และเกาะสมุย-เกาะเต่า, เกาะเต่า-เกาะสมุย โทร. 0-7720-5418, 0-7728-9894
-     เรือเร็วลมพระยา บริการเส้นทางการเดินเรือ เกาะสมุย-เกาะเต่า-เกาะพะงัน-ชุมพร รวมถึงการเดินทางจากกรุงเทพฯ โทร. 0-7742-7765-6, 081-5367162
*ข้อมูลส่วนนี้ก็เอามาจาก ททท ค่ะ
การเดินทางบนเกาะสมุย
              ถ้าไม่ได้นำรถไปเอง จะมีรถสองแถววิ่งบริการรอบเกาะ ผ่านสถานที่ต่างๆ เช่นท่าเรือหน้าทอน ท่าเรือเฟอร์รี่ ตลอดจนหาดต่างๆ
              อัตราค่าโดยสาร 15-40 บาท ตั้งแต่เวลา 06:00-21:00 น. แต่ถ้าหลังจากนั้นก็ยังมีวิ่งแต่ราคาจะสูงหน่อย มีมอเตอร์ไซด์รับจ้างไป หาดต่างๆ เช่ารถขับเที่ยวก็เป็นวิธีที่สะดวก มีทั้งมอเตอร์ไซด์ 200 บาท/วัน และรถจิ๊ป 800 บาท/วัน
*การเดินทางระหว่างเกาะ
              เรืออื่นๆ ที่ให้บริการระหว่างเกาะสมุย-เกาะเต่า-เกาะพะงัน จากเกาะสมุย เรายังสามารถเดินทางไปยังเกาะพะงัน และเกาะเต่าได้จากท่าเรือต่างๆ ได้แก่
1. ท่าเรือแท่น้ำ
เกาะสมุย-เกาะพะงัน
เรือธรรมดา เรือออกจากสมุยเวลา 09:30 น. ถึงเกาะพะงันเวลา 10:30 น. ค่ารือโดยสารคนละ 180 บาท
เรือ Catamaran เรือออกจากเกาะสมุยเวลา 08:00 น. ถึงเกาะพะงันเวลา 08:40 น. ค่าเรือโดยสารคนละ 250 บาท
เกาะสมุย-เกาะเต่า
เรือ Catamaran เรือออกจากเกาะสมุยเวลา 12:30 น. ถึงเกาะเต่าเวลา 15:00 น. ค่าเรือโดยสารคนละ 550 บาท
เกาะเต่า-เกาะสมุย
เรือ Catamaran เรือออกจากเกาะเต่าเวลา 15:00 น. ถึงเกาะสมุยเวลา 17:30 น. ค่าเรือโดยสารคนละ 550 บาท
2.   ท่าเรือบ่อผุด
เกาะสมุย-เกาะเต่า
เรือ Speed Boat เรือออกจากเกาะสมุยเวลา 08:30 น. ถึงเกาะเต่าเวลา 10:00 น. ค่าเรือโดยสารคนละ 550 บาท
3.  ท่าเรือพระใหญ่ (ติดกับโรงแรม Qcean View)
เกาะสมุย-เกาะพะงัน (หาดริ้นใน)
เรือธรรมดา เรือออกจากเกาะสมุยเวลา 10:30 น. 13:00 น. และ 16:00 น.ถึงเกาะพะงันเวลา 11:20 น. 13:50 น. และ 16:50 น.  ค่าเรือโดยสารคนละ 100 บาท
เกาะพะงัน (หาดริ้นใน)  เกาะสมุย
เรือธรรมดา เรือออกจากเกาะพะงันเวลา 09:30 น. 11:30 น. และ 14:30 น.ถึงเกาะสมุยเวลา 10:20 น. 12:20 น. และ 15:20 น.  ค่าเรือโดยสารคนละ 100 บาท
4. ท่าเรือพระใหญ่ หรือท่าเรือบางรัก (ติดกับโรงแรม Sunset 2)
เกาะสมุย-เกาะเต่า
เรือ Catamaran เรือออกจากเกาะสมุยเวลา 08:00 น. ถึงเกาะเต่าเวลา 10:30 น. ค่าเรือโดยสารคนละ 550 บาท
เกาะเต่า-เกาะสมุย
เรือ Catamaran เรือออกจากเกาะเต่าเวลา 15:00 น. ถึงเกาะสมุยเวลา 17:00 น. ค่าเรือโดยสารคนละ 550 บาท
สอบถามข้อมูลได้ที่ บริษัทลมพระยา
โทร. 07742-7765-6
5.  ท่าเรือหน้าทอน (เรือวังทอง Speed Boat)
เกาะเต่า-เกาะสมุย
เรือวังทอง (Speed Boat) เรือออกจากเกาะเต่าเวลา 10:30 น. ถึงเกาะสมุยเวลา 12:00 น. ค่าเรือโดยสารคนละ 550 บาท
เกาะสมุย-เกาะเต่า
เรือวังทอง (Speed Boat) เรือออกจากเกาะสมุยเวลา 12:00 น. ถึงเกาะเต่าเวลา 13:45 น. ค่าเรือโดยสารคนละ 550 บาท
เกาะสมุย-เกาะพะงัน
เรือด่วน เรือออกจากเกาะสมุยเวลา 09:00 น. 11:00 น. และ 17:00 น.ถึงเกาะพะงันเวลา 10:00 น. 12:00 น. และ 18:00 น.  ค่าเรือโดยสารคนละ 115 บาท
*ข้อมูลจากหนังสือท่องเที่ยว อาจจะมีเปลี่ยนแปลงไปบ้างแนะนำว่า ให้โทรสอบถามก่อนนะค่ะ บทความวันนี้ค่อนขางยาวแต่ก็เป็นประโยชน์มากนะค่ะ สำหรับผู้ที่มาสมุยครั้งแรก บทความต่อไปก็จะเป็นข้อมูลในตัวเกาะแล้วละค่ะ

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เส้นทางสู่สมุย

Backpacking Blog เราขอนำเสนอสมุยก่อนนะค่ะ เพราะว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าหน้าร้อนกันแล้ว เพื่อน ๆ จะได้มีข้อมูลดี ๆ เป็นไกด์ สำหรับเดินทางเที่ยวทะเลกัน รับรองว่าสมุยนั้นสวยงามไม่เป็นรองภูเก็ตเลยละค่ะ บทความนี้เราจะแนะนำวิธีการเดินทางไปสมุยครับ เอาแบบทางอากาศและทางบกเลย :D


การเดินทางไปเกาะสมุย
              การเดินทางไปยังเกาะสมุยในปัจจุบันมีความสะดวกสบายมาก เพราะว่าถึงแม้จะเป็นเกาะที่อยู่กลางทะเล แต่เราก็สามารถที่จะไปได้หลายวิธีค่ะ
เริ่มเดินทางจากกรุงเทพฯ
              มีตัว 4 ทางเลือก ดังนี้ค่ะ
1. ทางอากาศ หากคุณมีเวลาไม่มากนัก แต่อยากเที่ยวสมุยให้สนุกโดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง ก็มีสายการบินให้บริการในเส้นทางจาก กรุงเทพ –สุราษฎร์ธานี และจากกรุงเทพ–เกาะสมุย ด้วย เช่น  
1.  บริษัทการบินไทย ให้บริการเส้นทางการบินกรุงเทพ –สุราษฎร์ธานี  โทร. 1566 , 0-2628-2000
2.  สายการบิน บางกอกแอร์เวยส์ ให้บริการเส้นทางการบินจาก    กรุงเทพ–เกาะสมุย และจาก เกาะสมุย-กระบี่-ภูเก็ต โทร. 0-2265-5555 
3.  สายการบินนกแอร์ ให้บริการทุกวันบินตรงกรุงเทพ-สมุยเลยครับ สามารถติดต่อได้ทางเว็บไซต์ http://nokair.com
2. ทางรถยนต์ส่วนตัว  จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) พอถึงสามแยกปากท่อ-ราชบุรี-เพชรบุรี ให้เลี้ยวซ��ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ถึงสี่แยกปฐมพรจังหวัดชุมพร ให้ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึงแยกหนองชรี แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 401 ตรงไปผ่านอำเภอกาญจนดิษฐ์ พอข้ามสะพานคลองบ้านในแล้วให้ชิดซ้าย
จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4242 ราว 30 กิโลเมตร ถึงสามแยกตลาดดอนสัน เลี้ยวขวาเข้าท่าเรือเฟอร์รี่ ในที่นี้ท่านสามารถนำรถข้ามลงเรือไปได้ รวมระยะทางประมาณ 644 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางด้วยเรือประมาณ 1.30 ชั่วโมง
3ทางรถประจำทาง  จากสถานีขนส่งสายใต้ ให้บริการรถโดยสารปรับอากาศจาก กรุงเทพ –สุราษฎร์ธานี  ทุกวัน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
จากนั้นก็นั่งรถโดยสารประจำทางไปท่าเรือเฟอร์รี่ที่อำเภอดอนสัก หรือจะเหม่ารถแท็กซี่ไปส่งก็ได้
นอกจากนี้ยังมีบริการรถโดยสารระหว่าง กรุงเทพ–เกาะสมุย อีกด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
บริษัทขนส่ง จำกัด                     โทร. 0-2345-5605, 0-2434-7192
บริษัทโสภณทัวร์                        โทร. 0-2345-5023, 0-2435-7477
บริษัทกรุงสยามทัวร์                    โทร. 0-2345-5024, 0-2282-2118, 0-2884-9283
บริษัททรัพย์ไพศาลทัวร์              โทร. 0-2884-9584, 0-2435-5017, 0-2448-5765-7
แต่ถ้าคุณต้องการประหยัดในการเดินทาง คุณก็สามารถที่จะขึ้นรถโดยสารพิเศษจากถนนข้าวสาร หรือที่สถานีรถประจำทางสายใต้ที่ถนนบรมราชชนนี และคุณสามารถที่จะซื้อตั๋วได้กับทุกๆ บริษัททัวร์ที่อยู่ที่นั่นได้ ปรกติแล้วเขาจะรวมบริการเรือด้ว���แล้วครับ
4. ทางรถไฟ  จากสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) มีบริการเดินรถทุกวัน ระยะทางประมาณ 650 กิโลเมตร แต่คุณต้องไปลงที่สถานีรถไฟพุนพิน หรือต่อรถโดยสารประจำทาง หรือแท็กซี่ไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ที่อำเภอดอนสัน ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร แล้วซื้อตั๋วเรือข้ามไปเกาะสมุย
ติดต่อขอทราบตารางเดินรถไดที่การรถไฟแห่งประเทศไทย
โทร. 1690, 0-2223-0341, 0-2220-4567
ตารางการเดินรถไฟ
สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพ
รถไฟ
ออก
ถึง
ชั้น
XP SP (83)
17:05
05:00*
1st & 2nd
EXP SP (85)
19:15
07:09*
1st & 2nd

กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี
รถไฟ
ออก
ถึง
ชั้น
P SP (84)
20:57
09:05*
1st & 2nd
EXP SP (38)
22:38
10:35*
1st & 2nd
EXP SP (36)
23:08
11:00*
1st & 2nd

ข้อมูลทั้งหมดนี้มาจากประสบการณ์การเดินทางของเราเอง และเป็นข้อมูลของทาง ทททดังนั้นอ้างอิงได้ครับ แต่ถ้าเพื่อน ๆ มีข้อมุลเพิ่มเติมสามารถคอมเม้นต์ได้ครับ จะได้อัพเดทให้ เอาละครับเอาเป็นว่าวันนี้เราก็ได้มาถึงประตูทางเข้าสมุยกันแล้ว มาต่อบทความต่อไปสำหรับการเดินทางเข้าสู่เกาะ สมุย